แชร์

ข้อควรรู้ก่อนเข้าหุ้นส่วนกันทำธุรกิจ จะได้ไม่เสียเปรียบ เป็นอย่างไร ?

อัพเดทล่าสุด: 5 ก.ย. 2025
14 ผู้เข้าชม
                      การมีที่ปรึกษากฎหมาย หรือ ทนายความ  ให้คำปรึกษาในการตั้งธุรกิจ หรือ บริษัท หรือนิติบุคคล นั้นเพื่อป้องกันปัญหา และเพื่อการวางแผนด้านกฎหมาย  ส่วนมากแล้วการเข้าหุ้นส่วนกันทำธุรกิจ มักจะไม่มีการขอคำปรึกษากับทนายความ  และไม่มีการทำสัญญาเข้าหุ้นส่วนกันเป็นทางการ  ทำให้เกิดปัญหาขึ้นได้ในภายหลังทำธุรกิจด้วยกัน
                      การที่หุ้นส่วนธุรกิจ ทำสัญญากันเพื่อประโยชน์ในการดำเนินการ  เพราะการทำธุรกิจนั้น  รายได้ย่อมไม่ใช่แค่เงินเดือน เท่านั้น  ยังมีการแบ่งหน้าที่กันอีก รวมถึงการแบ่งผลประโยชน์จากยอดขาย ก็มีความสำคัญ   ข้อตกลงเรื่องการห้ามทำธุรกิจแข่งขันกับบริษัทก็มีผลเช่นกัน  เพื่อป้องกันการแย่งลูกค้าของบริษัทที่ตั้งขึ้นในภายหลัง  ฝ่ายใดทำผิดข้อตกลง อีกฝ่ายก็สามารถบอกเลิกสัญญาเข้าหุ้นส่วนกันได้  แล้วยังเรียกร้องค่าเสียหายอะไรได้บ้าง ถ้ามีข้อตกลงกันไว้ตามกฎหมายย่อมเป็นการคุ้มครองสิทธิของผู้ลงทุนด้วย   การชำระค่าหุ้น การเพิ่มทุนมีขั้นตอนอย่างไร ต้องมีการระบุไว้ให้ชัดแจ้ง
                     ดังนั้น ผมจะแนะนำเบื้องต้น ให้ ผู้หุ้นส่วนกันทำสัญญาเข้าหุ้นส่วนทำบริษัทกันตามกฎหมาย  ไม่ใช่แค่การจดทะเบียนบริษัท กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเท่านั้น   และมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
  1. ข้อตกลงการแบ่งผลตอบแทน จากการขายสินค้า หรือบริการ ของหุ้นส่วนแต่ละคน ที่หาลูกค้ามาให้กับบริษัท
  2. ข้อตกลงเกี่ยวกับเงินเดือน ของหุ้นส่วนแต่ละท่าน และสวัสดิการที่จะได้รับ  เพื่อความเท่าเทียมกัน
  3. ข้อตกลงเรื่องการแบ่งหน้าที่ในการบริหารงานของบริษัท  เช่น  การรับสมัครพนักงานมีข้อกำหนดอย่างไร
  4. ข้อตกลงการแบ่งเขตลูกค้าของหุ้นส่วนแต่ละท่าน  เพื่อไม่ให้แย่งลูกค้ากันเอง
  5. ข้อตกลงเกี่ยวกับผิดสัญญาเข้าหุ้นส่วนกัน  มีสิทธิเรียกร้องอะไรได้บ้าง
  6. ข้อตกลงเกี่ยวกับการชำระค่าหุ้น  การเพิ่มทุนกิจการในอนาคต
  7. ข้อตกลงเรื่องการขายหุ้นของบริษัทแก่บุคคลภายนอกหรือระหว่างหุ้นส่วนกันเอง  ต้องมีรายละเอียดระบุไว้ชัดแจ้ง
  8. ข้อตกลงเกี่ยวกับการเลิกสัญญาเข้าหุ้นส่วนกัน
  9. ระยะเวลาในการเข้าหุ้นส่วนกัน
  10. ข้อตกลงในการเปิดบัญชีธนาคาร  และการสั่งจ่ายเช็ค
  11. ข้อตกลงในการจ่ายค่าตอบแทนแก่พนักงาน และการจัดทำข้อบังคับในการทำงานของพนักงาน
  12. ข้อตกลงในการติดตามหนี้สินของธุรกิจ และการฟ้องคดีต่อศาล
  13. ข้อตกลงเกี่ยวกับการประชุมบริษัท เช่น การประชุมประจำเดือน  ประชุมประจำปี การประชุมติดตามการขายสินค้า หรือบริการ
  14. ข้อตกลงเกี่ยวกับการตลาด และการลงทุน

จัดทำโดย

ทนายความตรีสุพจน์ ตันตยาภิรมย์กุล


บทความที่เกี่ยวข้อง
เหตุฟ้องหย่าเพราะถูกทำร้ายร่างกาย  ได้หรือไม่ ?
การที่คู่สมรสตามกฎหมาย แล้วภายหลังที่อยู่กินกันฉันสามีภริยา มีเหตุทำให้ทะเลาเบาะแว้งกัน จนทำให้มีการทำร้ายร่างกายเกิดขึ้น เหล่านี้ เป็นเหตุเพียงพอให้ฟ้องหย่า และเรียกร้องค่าเสียหายได้หรือไม่ และจะเรียกค่าเสียหายได้จำนวนเท่าไร?
8 ก.ย. 2025
การยื่นจัดการมรดกของต่างชาติ ที่มีถินที่อยู่ในประเทศไทย  ต้องดำเนินการอย่างไร ?
การที่ต่างชาตินั้นเข้ามามีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย ไม่มีว่าจะเข้าประกอบกิจการ หรือเข้ามาสมรสกับคนไทย ซึ่งอยู่อาศัยด้วยกันในประเทศไทย เมื่อมีเหตุจำเป็นต้องวางแผนการจัดการทรัพย์สินของต่างชาติ ภายหลังชีวิตแล้ว จะมีการดำเนินการอย่างไร และต่างชาติสามารถทำพินัยกรรมเกี่ยวกับทรัพย์สินอย่างไร ได้บ้างตามกฎหมายของประเทศไทย
6 ก.ย. 2025
ข้อบังคับการทำงานระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง มีความสำคัญอย่างไร?
เมื่อนายจ้างมีสถานประกอบกิจการ และมีการรับลูกจ้างพนักงานเข้าทำงาน ตามสัญญาจ้างแรงงานแล้ว บางครั้งการจะระบุข้อกำหนด หรือข้อตกลง อันเป็นรายละเอียดในการทำงานระหว่างนายจ้างและลูกจ้างในสัญญาจ้างแรงงานย่อมกระทำได้ยาก และจะเป็นการวุ่นวายมาก อาจทำให้สัญญาจ้างแรงงานนั้นมีจำนวนหลายหน้าและมีความสลับซับซ้อนในการจ้างแรงงานได้ ถ้าแยกสัญญาจ้างแรงงานและข้อบังคับการทำงาน เป็นเอกสารคนละชุดกัน ย่อมเป็นประโยชน์ในการจ้างแรงงานได้ตามกฎหมาย ทั้งนี้ ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ทั้งนายจ้างและลูกจ้าง
6 ก.ย. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy