ความผิดฐานแจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อพนักงานสอบสวน ในคดีอาญา เป็นอย่างไร?
อัพเดทล่าสุด: 8 ต.ค. 2025
80 ผู้เข้าชม

การแจ้งความเท็จต่อพนักงานสอบสวนในคดีอาญา มีประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 172 กล่าวว่า " ผู้ใดแจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญา แก่พนักงานอัยการ ผู้ว่าคดี พนักงานสอบสวน หรือ เจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
การแจ้งความในคดีอาญา ไม่ว่าจะเป็นที่เกิดเหตุ รายละเอียดวัน เวลา สถานที่เกิดเหตุ นั้น ต้องแจ้งตามความจริงทั้งหมด เพราะพนักงานสอบสวนต้องรวบรวมพยานหลักฐานในคดีทั้งหมดเพื่อพิสูจน์ความผิดในคดีอาญานั้นๆ และการแจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับคดีอาญานั้น ทำให้พนักงานสอบสวนรวบรวมข้อความอันเป็นเท็จไว้ในสำนวนคดีอาญานั้น ผู้นั้นเป็นผู้กระทำความผิด และมีโทษตามข้างต้น
การดำเนินคดีอาญานั้น มีการจำกัดสิทธิเสรีภาพ ตามกฎหมาย ต้องดำเนินการเท่าที่กฎหมายให้สิทธิทำได้ และแจ้งความในคดีอาญานั้นต้องมีความรัดกุม และมีพยานหลักฐาน การให้การเท็จของพยานในชั้นสอบสวน ก็เป็นความผิดในมาตรานี้ การที่พนักงานสอบสวนเรียกผู้ใดเป็นพยาน พยานต้องให้การด้วยความสัตย์จริงทั้งหมด มิฉะนั้น จะเข้าข่ายความผิดในมาตรานี้ด้วย
ต่อมาประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 173 กล่าวว่า " ผู้ใดรู้ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้นแจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวน หรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่า ได้มีการกระทำความผิด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี และปรับไม่เกินหกพันบาท " ในมาตรานี้ เป็นการเจตนาให้ผู้ใดต้องถูกดำเนินการสอบสวนในคดีอาญา โดยที่ผู้นั้นรู้อยู่แล้วว่า ไม่มีการกระทำความผิดของผู้ใดตามที่มีการแจ้งความดำเนินคดีอาญาต่อพนักงานสอบสวน เช่นกรณี ที่ผู้เสียหายถูกหลอกไปทำงานต่างประเทศแล้ว ไปแจ้งผู้เสียหายท่านอื่น เพื่อต้องการเงินคืนที่ถูกหลอกไปทำงานต่างประเทศ เป็นต้น การกระทำความผิดดังกล่าว เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 173 และทำให้ผู้ใดถูกดำเนินคดีอาญา และถูกฟ้องคดีอาญาต่อศาล
การกระทำความผิดในลักษณะนี้ มีความร้ายแรงทำให้ผู้อื่นถูกจำกัดสิทธิเสรีภาพ และถูกดำเนินคดีอาญา
ดังนั้น ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการแจ้งความเท็จในคดีอาญา มีสิทธิฟ้องคดีอาญาต่อศาลและเรียกร้องค่าเสียหายได้ตามกฎหมาย
จัดทำโดย
ทนายความตรีสุพจน์ ตันตยาภิรมย์กุล
บทความที่เกี่ยวข้อง
ปัจจุบันนั้น มือถือและกล้องได้พัฒนาไปมาก และสามารถใช้งานได้ง่าย แต่การใช้มือถือบันทึกภาพ และกล้องบันทึกภาพ ไม่ว่าจะเป็นภาพนิ่ง หรือ ภาพเคลื่อนไหว พร้อมกับบันทึกเสียง ในลักษณคลิปวีดีโอ โดยนำไปถ่ายบันทึกภาพของผู้อื่น ในที่สาธารณะ หรือ พื้นที่ส่วนบุคคล มีลักษณะอย่างไรที่เป็นความผิดตามกฎหมาย และ ผู้ที่ถูกถ่ายคลิป หรือ ถูกถ่ายภาพจะดำเนินคดีอาญาได้อย่างไรบ้าง? มีกฎหมายคุ้มครองหรือไม่ ? วันนี้ ผมมีสาระกฎหมายมาให้อ่านครับ
15 พ.ย. 2025
หลายๆครั้งที่อุบัติเหตุจากการจราจร ก่อให้เกิดความเสียหาย แก่ชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน และเกิดปัญหาที่ต้องแก้ไข หรือต้องการทางออก ไม่ว่าจะเป็นทางออกของคดี มีข้อกฎหมายอย่างไร ทางออกของการเจรจา จะมีแนวทางอย่างไร เพื่อจะเจรจากับคู่กรณี ปัจจุบัน มีกฎหมายที่สำคัญ คือ พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 และมี พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 ในการนำมาเป็นหลักในการหาทางออก และหากมีประภัยรถยนต์ด้วย ก็ยิ่งทำให้บรรเทาความเดือดร้อนไปได้เป็นอย่างมาก
12 พ.ย. 2025
เมื่อต้องการปรึกษากฎหมาย หรือ ติดต่อกับทนายความ ควรปฏิบัติอย่างไร ? จึงจะเกิดความรวดเร็ว และเกิดความสบาย เป็นประโยชน์ต่อเป้าหมายของท่าน ก่อนอื่น ต้องทำความรู้จักลักษณะเด่น ของทนายควาามก่อน ว่ามีลักษณะเด่นอย่างไร ? เพื่อจะได้เข้าใจ และสื่อสารได้อย่างมั่นใจและ เป็นประโยชน์ในการติดต่อกับทนายความ ลดปัญหาการเข้าใจ หรือ ไม่รู้ และสร้างบุคลิกภาพที่ดี ในการพบ และติดต่อกับทนายความ
7 พ.ย. 2025


