เช็ค แบบไหนที่ไม่มีความผิด ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2534 มาตรา 4 ?

หลายๆครั้ง ที่ผู้ทรงเช็คที่ได้รับเช็คมา และนำเช็คเข้าเรียกเก็บตามวิธีการของธนาคาร แล้วนั้น ธนาคารได้ปฏิเสธการใช้เงินตามเช็ค และได้มาปรึกษากับทนายความ เพื่อดำเนินการฟ้องคดีตามกฎหมาย
ในส่วนของสำนักงานทนายความตรีสุพจน์ ตันตยาภิรมย์กุล จะมีการขอพยานหลักฐาน อันเป็นเอกสาร เกี่ยวกับมูลหนี้ตามเช็คทั้งหมด และหลักฐานการปฏิเสธการใช้เงินของธนาคาร เพราะบางครั้ง หนี้บางอย่างนั้นไม่เป็นหนี้ตามกฎหมาย ย่อมไม่อาจฟ้องคดีเช็ค ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากกการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 4 เช่น กรณีการให้ผ่อนสินค้าและมีดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และมีเป็นหนังสือการการผ่อนชำระจริง อย่างนี้ไม่สามารถฟ้องคดีอาญา ในข้อหา พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2534 มาตรา 4 ได้ตามกฎหมาย
การปรึกษาทนายความต้องแจ้งว่าเช็คดังกล่าว เป็นการชำระหนี้อะไรกันด้วย และหากท่านปกปิดไม่แจ้ง หรือแจ้งไม่ตรงกับพยานเอกสาร เมื่อตรวจพบในภายหลัง ถือว่าเป็นความบกพร่องของท่าน และทางสำนักงานทนายความไม่สามารถฟ้องคดีแก่ท่านได้ เพราะการฟ้องคดีต่อศาลต้องดำเนินการโดยถูกต้องตามกฎหมาย ทนายความไม่ใช่อาชีพรับจ้างทั่วไป ทนายความต้องปฏิบัติตามกฎหมายในการฟ้องคดีด้วย
ดังนั้น ให้เรามีดู พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2534 มาตรา 4 ่" ผู้ใดออกเช็คเพื่อชําระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมายโดยมี
ลักษณะหรือมีการกระทําอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้
(1) เจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้น
(2) ในขณะที่ออกเช็คนั้นไม่มีเงินอยู่ในบัญชีอันจะพึงให้ใช้เงินได้
(3) ให้ใช้เงินมีจํานวนสูงกว่าจํานวนเงินที่มีอยู่ในบัญชีอันจะพึงให้ใช้เงินได้ในขณะที่
ออกเช็คนั้น
(4) ถอนเงินทั้งหมดหรือแต่บางส่วนออกจากบัญชีอันจะพึงให้ใช้เงินตามเช็คทำให้เหลือเงินไม่เพียงพอ
(5) ห้ามธนาคารไม่ให้ใช้เงินตามเช็คโดยเจตนาทุจริต "
สรุปการฟ้องคดีต้องไปตามกฎหมายโดยเคร่งครัดนะครับ
จัดทำโดย
ทนายความตรีสุพจน์ ตันตยาภิรมย์กุล


